แนวโน้มธุรกิจ อุตสาหกรรม ดิจิทัลและซอฟแวร์

ตามแนวโน้มปัจจุบัน, ธุรกิจดิจิทัลและซอฟต์แวร์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค. นี่คือบางแนวโน้มที่คาดการณ์ว่าจะมีอิทธิพลในอุตสาหกรรมดิจิทัลและซอฟต์แวร์:

  1. ความยืดหยุ่นในการทำงาน (Remote Work):
    • การทำงานจากระยะไกลกลายเป็นสถานการณ์ที่มีอิทธิพลมากขึ้น, ซึ่งก่อให้เกิดความต้องการในการพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีที่สนับสนุนการทำงานระยะไกล.
  2. การใช้งาน Cloud Computing:
    • การย้ายข้อมูลและแอปพลิเคชันไปยังพื้นที่ Cloud กำลังเพิ่มขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้ทุกที่ทุกเวลา.
  3. ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Interaction):
    • การนำเทรนด์การปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างจริงจังผ่านช่องทางดิจิทัล, เช่นแชทบอท, การให้บริการลูกค้าทางออนไลน์, และการใช้ข้อมูลเพื่อปรับการให้บริการ.
  4. ธุรกิจ E-commerce:
    • การซื้อขายผ่านทางออนไลน์กลับมามีความสำคัญมากขึ้น, และธุรกิจ E-commerce ต้องพัฒนาและปรับตัวตนในรูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า.
  5. ปัญญาประดิษฐ์และปัญญาประดิษฐ์ทางธุรกิจ (AI and Business Intelligence):
    • การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจและการตัดสินใจ, ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการด้วยข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น.
  6. การพัฒนาแอปพลิเคชัน (App Development):
    • แอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาหรือให้บริการที่ทำให้ชีวิตของผู้ใช้ง่ายขึ้นจะมีอิทธิพลทางตลาด.
  7. การปฏิวัติด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (HR Tech):
    • การใช้เทคโนโลยีในการจัดการทรัพยากรมนุษย์, เช่นการใช้งานซอฟต์แวร์ HR และเทคโนโลยี Blockchain เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์.
  8. ความปลอดภัยทางไซเบอร์:
    • การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและระบบในธุรกิจ, รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ป้องกันการทำลายข้อมูล.
  9. Blockchain Technology:
    • การนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในธุรกิจ, เช่นการทำธุรกรรมทางการเงิน, การติดตามโซเชียลแลนด์, และการทำสัญญา.
  10. การพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่น (Agile Software Development):
    • การใช้กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถปรับตัวตนได้ตามความเปลี่ยนแปลงของตลาด.

การเลือกดิจิทัลและซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น, ปรับตัวตนตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมธุรกิจ, และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า.

การปรับปรุงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ต้องทำยังไงให้ทันยุค ใหม่

การปรับปรุงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ต้องทำยังไงให้ทันยุค ใหม่

การปรับปรุงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาประสบการณ์ลูกค้าที่ดีและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจของคุณ นี่คือขั้นตอนและตัวอย่างการปรับปรุงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน:

  1. วิเคราะห์ปัญหา: เริ่มต้นโดยการวิเคราะห์ปัญหาที่คุณต้องการแก้ ว่าทำไม่ดีหรือทำให้ลูกค้าไม่พอใจอย่างไรบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของคุณ.
  2. วัตถุประสงค์ของการปรับปรุง: กำหนดวัตถุประสงค์ของการปรับปรุง เช่น ปรับปรุงประสิทธิภาพในการโหลดหน้าเว็บ, เพิ่มประสิทธิภาพในการชำนาญในการตัดสินใจซื้อ, หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการชำนาญในการตัดสินใจซื้อ.
  3. การออกแบบ: สร้างการออกแบบใหม่หรือปรับปรุงการออกแบบที่มีอยู่เพื่อตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณ. การออกแบบควรรองรับประสิทธิภาพการใช้งานและความสะดวกสบายของผู้ใช้.
  4. การพัฒนาและทดสอบ: พัฒนาส่วนปรับปรุงที่ออกแบบและทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ามันทำงานได้ถูกต้อง และไม่มีบัคหรือปัญหา.
  5. การปรับปรุงเนื้อหา: ปรับปรุงเนื้อหาบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเพื่อให้เกี่ยวกับวัตถุประสงค์และสนใจของลูกค้า.
  6. การเปิดเผยการปรับปรุง: แจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับการปรับปรุงที่มีอยู่และส่งให้พวกเขามีความรู้ในเวลาที่เหมาะสม.
  7. การทดสอบและปรับปรุง: ทดสอบการปรับปรุงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะและข้อมูลที่ได้รับ.
  8. การนำเสนอการปรับปรุง: นำเสนอการปรับปรุงที่พร้อมและทำให้มันพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้า.

ตัวอย่าง: ร้านออนไลน์ที่ขายเสื้อผ้าอาจปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาสินค้าและให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับขนาด, วัสดุ, และคุณสมบัติอื่น ๆ ของสินค้า. นอกจากนี้, พวกเขาอาจทดสอบรูปแบบของเมนูเพื่อเพิ่มความเร็วในการนำทาง.

การเลือกประเภทและการใช้งานของเช่ารถเทรลเลอร์

รถบรรทุกประเภทต่างๆที่เราเห็นกันอยู่ตามท้องถนนมีหลายประเภท ต่างกันที่ลักษณะการใช้งานควรใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของงานก่อนอื่นมาดูว่ารถประเภทไหนคืออะไรและเหมาะกับการใช้งานในด้านไหน
– รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ จะแตกต่างจากรถเทรลเลอร์ตรงที่โดยส่วนมากแล้วรถประเภทนี้จะใช้ในงานส่งของตามขนาดหรือปริมาณของสินค้า เช่น อิฐ หิน ปูน ทราย หรือในบางผู้ให้บริการอาจรวมถึงรับจ้างขนย้ายสินค้าตามบ้านด้วย
– รถกึ่งพ่วง(semi trailer) หรือรถเทรลเลอร์ คือรถที่ต้องใช้หัวลากคือส่วนหัวแบกรับน้ำหนักในการลากทั้งหมด โดยส่วยมากใช้บรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์
– รถพ่วง (full ttailer) มักจะใช้กับงานส่งของที่มีขนาดงานใหญ่มากๆ หรือมีจำนวนมากๆเช่นขน อิฐ หิน ปูน ทรายสำหรับก่อสร้างสะพานหรือรถไฟฟ้าหัวลากของรถพ่วงสามรถแยกออกจากหางพ่วงและใช้เป็นรถบรรทุกขนสินค้าแทนได้

สิ่งที่ควรปฎิบัติก่อนการใช้รถพ่วงหรือเช่ารถเทรลเลอร์
– ตรวจความดันยาง ในระดับความดันให้อยู่ในระดับที่ 120ปอนด์/นิ้ว
– ถ่ายน้ำมันออกจากถังลม เพื่อป้องกันการเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์เบรก
– ตรวจเช็คความดันลม ไม่ให้ต่ำกว่า 4kg/cmเนื่องจากระบบเบรกจะห้ามล้ออัตโนมัติ และไม่ให้เกิน 10kg/cm จะทำให้เบรกเสียหายได้
– เช็คการอัดลมเข้าถังลม ให้อยู่ในระดับมาตรฐานที่ 9kg/cm ทดสอบเหยียบเบรกติดต่อกัน 7 ครั้ง ตรวจประสิทธิภาพของปั๊มลมหรือการรั่วตามท่อลม

พิกัดขนาดและน้ำหนักที่บรรทุกได้ตามกฎหมาย
เช่ารถเทรลเลอร์ ก่อนที่จะบรรทุกสินค้าใดๆในกรณีที่เป็นผู้บริการสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกเรื่องคือน้ำหนักของสิ่งที่เราบรรทุกตัวอย่างเช่นของที่มีน้ำหนักปริมาณมากๆเป็นตันตัน ต้องใช้รถพ่วงหรือรถบรรทุกกี่ล้อ กี่เพลา เพื่อไม่ให้ผิดกฏหมายและโดนเซ็นใบสั่ง

สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะขับรถใหญ่ได้ต้องมี ใบอนุญาตขับขี้ประเภทที่ 3ใช้สำหรับ เช่ารถเทรลเลอร์ และใบอนุญาตประเภทที่ 4 สำหรับขับรถบรรทุกสารเคมีและวัตถุที่มีอันตรายอย่างไรก็ตามผู้ขับขี่รถพ่วงหรือรถบรรทุกเป็นความสามารถเฉพาะทางที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการขับขี่ และนอกจากนั้นยังต้องอาศัยความอดทนอีกด้วย
มีบริษัทที่รับบริการให้บริการในการจัดส่งสินค้ามากมายแต่ที่สำคัญคือควรดูในเรื่องของมาตรฐานการขนส่งในกรณีที่สินค้าของเราต้องการความปลอดภัยหรือการดูแลในระดับสูงอย่างเช่นสินค้าพวกสารเคมีหรือวัตถุที่เป็นอันตรายต่างๆ หากเราใช้รถบรรทุกที่ไม่มีมาตราฐานแล้วในขณะที่ขนส่งเกิดการรั่วไหลของสารเคมีส่งผลกระทบต่อผู้อื่น อาจทำให้เราต้องรับผิดชอบในผลที่เกิดขึ้นตามมาด้วย

รับโปรโมทเว็บพนัน ยิงแอดเว็บพนัน ลงโฆษณาเว็บพนัน Google

การหาลูกค้า สายเทา เว็บคาสิโน อีกช่องทางหนึ่ง ที่น่าสนใจสำหรับ เสี่ยใหญ่ ในวงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บหนัง ฟุตบอล มีเว็บหวยก็ตาม การโฆษณากับทาง โฆษณา AdWords เว็บพนันออนไลน์ คือตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นการหาลูกค้าผ่าน adword สายเทา ผ่านสื่อโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลกออนไลน์จึงทำให้แน่ใจได้ว่าสามารถหาลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพอย่างแน่นอน และอีกช่องทางหนึ่ง นั่นก็คือการ รับโปรโมทเว็บพนัน โฆษณาเว็บพนัน ผ่าน Facebook Add ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

วิธีหาลูกค้าเว็บพนัน Facebook
วิธียิงแอดเว็บพนัน รับโปรโมทเว็บพนัน วิธีหาลูกค้า เว็บพนัน ในส่วนของการโฆษณา Facebook เว็บสายเทา ขายอาหารเสริมผู้ชาย นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมททางการตลาด ผ่านสื่อโซเชียลออนไลน์ยังมีแนวทางหาลูกค้าอีกมากมาย ใน Facebook เว็บคาสิโน ไม่ว่าจะเป็น การสร้างแฟนเพจ การสร้างโปรไฟล์ รวมไปถึงสร้างกลุ่มคาสิโน ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อหาลูกค้าโดยตรงจากวิธีการอันนั้น ทั้งนี้ วิธีนี้สามารถใช้โปรโมทเว็บคาสิโน เว็บบอลออนไลน์ รวมไปถึงเว็บหวยได้โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก

ลงโฆษณาแบนเนอร์ เว็บพนัน เว็บคาสิโน
ลงแบนเนอร์ โฆษณา เว็บพนัน เว็บบอล เว็บหวย เว็บคาสิโน สำหรับธุรกิจเว็บไซต์คาสิโนของท่านนั้น ในปัจจุบันมีการตลาดมากมาย แต่มีตัวเลือกที่น่าสนใจอีกส่วนหนึ่งก็คือการลงแบนเนอร์ banner เว็บหนัง เว็บ18+ ด้วยที่ว่าการลงไปเน่อ สามารถเพิ่ม Traffic แนะแนวทางการทำ seo ได้อย่างดี ทำให้เว็บ เป็นที่รู้จักภายในชั่วข้ามคืน ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง

ลงประกาศ Post Webboard
การตลาดคาสิโน โปรโมทเว็บบอล อาหารเสริมผู้ชาย นั้นสามารถรับโฆษณาเว็บคาสิโนได้ผ่านทางเว็บบอร์ดได้นอกจากการทำ seo สายเทา แล้ว ยังสามารถโปรโมทกระจายสื่อไปยังเว็บบอร์ดต่างๆได้อย่างดีเช่นกันทุกวันนี้มีเครื่องมือในการโพสในบอร์ดมากมาย และที่สำคัญนั้น เว็บบอร์ดเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้จึงสามารถหาลูกค้าเข้าเว็บได้โดยไม่เสียเงินมากมายนัก Webboard มีทั้งเว็บบอร์ดไทยหรือบอร์ดต่างประเทศ เว็บบอร์ด SMS PHP และรูปแบบต่างๆอีกมากมายสามารถนำไปโปรโมทได้นับ 100 เว็บ

โปรโมทเว็บพนัน หาเอเย่นหรือตัวแทนลูกค้าเว็บพนัน
รับทำการตลาด รับโปรโมทเว็บพนัน สายเทา สำหรับวิธีการนี้เป็นการหาเอเย่น เว็บพนัน หรือตัวแทนจำหน่ายของเว็บคาสิโนซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจในปี 2023เพราะจะได้ Connection เพิ่มมาด้วย นอกจากนี้ยังได้ทีมงานที่น่าสนใจและมีฝีมือ ในการทำการตลาดมาช่วยเสริมทัพ ในรูปแบบตัวแทนที่มีการจ่ายแบบชั้นเดียว และการจ่ายแบบหลายชั้น

ซึ่งส่วนมากแล้วเว็บคาสิโน หรือเว็บหวย จะมีการสร้างระบบตัวแทนจำหน่ายรวมไปถึงระบบ affiliate สายเทา ขึ้นมาสำหรับให้ตัวแทนจำหน่ายนั้นเอาไปต่อยอดทำการตลาดเพิ่มเติมได้ ซึ่งเป็นระบบที่น่าสนใจที่สามารถสร้างฐานลูกค้าได้เป็นชั้นๆได้อย่างรวดเร็ว

5 เทคโนโลยี่เตรียมพร้อมสร้างโอกาสต่างๆ

5 เทคโนโลยี่เตรียมพร้อมสร้างโอกาสต่างๆ

มีเทคโนโลยีเกิดใหม่มากมายที่พร้อมจะสร้างโอกาสสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ ต่อไปนี้คือห้าเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการสร้างโอกาสใหม่:

ปัญญาประดิษฐ์ (AI): เทคโนโลยี AI เช่น การเรียนรู้ของเครื่องและการประมวลผลภาษาธรรมชาติ มีความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล และคาดการณ์อย่างชาญฉลาด สิ่งนี้เปิดโอกาสในด้านต่างๆ เช่น การตลาดเฉพาะบุคคล ยานพาหนะอัตโนมัติ การวินิจฉัยด้านสุขภาพ ผู้ช่วยเสมือน และระบบอัตโนมัติในบ้านอัจฉริยะ

Internet of Things (IoT): IoT หมายถึงเครือข่ายของอุปกรณ์และเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อกันซึ่งสามารถรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ เทคโนโลยีนี้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ ระบบอัตโนมัติ และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในอุตสาหกรรมต่างๆ โอกาสรวมถึงเมืองอัจฉริยะ อุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่เชื่อมต่อ ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม และการเกษตรอัจฉริยะ

Blockchain: เทคโนโลยี Blockchain มอบธุรกรรมที่ปลอดภัย โปร่งใส และกระจายอำนาจและการเก็บบันทึกข้อมูล มีศักยภาพในการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การเงิน การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การดูแลสุขภาพ และการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล โอกาสในพื้นที่นี้รวมถึง cryptocurrency, สัญญาอัจฉริยะ และการแบ่งปันข้อมูลที่ปลอดภัย

การเชื่อมต่อ 5G: เทคโนโลยีไร้สายรุ่นที่ 5 (5G) ให้ความเร็วที่เร็วขึ้น ความหน่วงต่ำ และความจุเครือข่ายที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้เกิดความก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น ยานพาหนะอัตโนมัติ การผ่าตัดจากระยะไกล เทคโนโลยีความจริงเสริม/ความจริงเสมือน (AR/VR) และโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ โอกาสอยู่ที่การพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการที่รองรับ 5G

พลังงานหมุนเวียน: ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับแหล่งพลังงานสะอาดนำเสนอโอกาสในเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และพลังน้ำ ความก้าวหน้าในระบบจัดเก็บพลังงานและการรวมกริดยังสร้างโอกาสสำหรับนวัตกรรมในภาคพลังงาน

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงพัฒนาอยู่ การนำไปใช้และผลกระทบอาจแตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรมและภูมิภาค ธุรกิจและบุคคลทั่วไปควรติดตามเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการใช้งานที่เป็นไปได้ และปรับกลยุทธ์เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสที่พวกเขาเสนอ

ประเภทรถกระเช้า มีอะไรบ้าง?

ประเภทรถกระเช้า มีอะไรบ้าง?
รถกระเช้าที่มีใช้งาน ย่อมมีหลายประเภทแตกต่างกันออกไป เพื่อรองรับการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างดี และเหมาะสมที่สุด รถกระเช้าที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน สามารถแบ่งประเภทได้ตามจำนวนล้อ และสามารถแยกประเภทย่อยออกไปได้ตามประเภทของรถที่นำมาติดกระเช้านั้น ๆ ดังนี้
• รถกระเช้าชนิด 4 ล้อ
รถกระเช้า ชนิด 4 ล้อ มีทั้ง 4 ล้อติดชุดเครน และ 4 ล้อดัมพ์ ติดชุดเครน การใช้งาน สามารถใช้งานได้หลายอย่าง ทั้งทำงานสวน ใช้เก็บผลไม้ และบรรทุกผลไม้ในรถคันเดียวกัน ใช้เป็นรถตัดแต่งกิ่งไม้ริมทาง รวมถึงใช้ซ่อมไฟแสงสว่างตามถนนตรอก ซอย สวนสาธารณะต่าง ๆ โดยส่วนมากแล้ว ชุดควบคุมการทำงานจะอยู่บนตัวกระเช้าทั้งหมด มีเกียร์เดินหน้า ถอยหลัง ยกน้ำหนักได้ประมาณ 150 กิโลกรัม บูมรับน้ำหนักแบบ 2 พับ อาจมีขาหยั่งกันล้มทั้ง 4 ด้าน
• รถกระเช้าประเภท 6 ล้อ
รถกระเช้าประเภท 6 ล้อ สามารถใช้งานได้หลากหลาย และพบได้มากในการใช้งานด้านการเกษตร ตัวรถติดชุดไฮดรอลิคเครนมีรอก และสลิงที่ปลายเครน ใช้สำหรับหิ้วยกเคลื่อนย้ายของที่มีน้ำหนักมาก เหมาะสำหรับขนย้ายสิ่งของด้วยคนเพียงคนเดียว มีขาหยั่งกันล้ม 2 ข้าง น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกประมาณ 5,500 กิโลกรัม กระเช้ายกได้สูงจากพื้นดินประมาณ 8-10 เมตร ยกน้ำหนักได้ประมาณ 2,000 กิโลกรัม หรือ 2 ตันที่แขนหดสุด การใช้งานรถกระเช้าประเภท 6 ล้อแบบเครน หรือดัมพ์เครน ก็ควรคำนึงถึงการใช้งานว่ามีความสูงเพียงใด พื้นที่ของการทำงานที่จะใช้รถวิ่งผ่าน หรือจุดที่จะใช้รถกระเช้าปฏิบัติงาน รวมไปถึงความจำเป็นในการขนย้าย และน้ำหนักที่ใช้บรรทุกด้วย
• รถกระเช้า 1 สูบ
รถกระเช้า 1 สูบ มีทั้งแบบ 3 ล้อ 4 ล้อ และ 6 ล้อ โดยแบบ 4 ล้อมีทั้ง 4 ล้อทั่วไป แบบ 4 ล้อติดชุดเครน และแบบ 4 ล้อดัมพ์ติดชุดเครน แบบ 4 ล้อทั่วไปจะยกน้ำหนักได้ประมาณ 120 กิโลกรัม แต่หากเป็นแบบ 4 ล้อติดชุดเครน หรือแบบ 4 ล้อดัมพ์ติดชุดเครน จะยกน้ำหนักได้ 2-3 ตัน เหมาะสำหรับขนย้ายสิ่งของด้วยคนเพียงคนเดียว ส่วนแบบ 6 ล้อ จะมีทั้งแบบรถกระเช้าเครน 6 ล้อ ติดชุดขุดดิน รถกระเช้า 6 ล้อ ติดชุดเครน และรถกระเช้า 6 ล้อดัมพ์ ติดชุดเครน เหมาะสำหรับยกหรือเคลื่อนย้ายของที่มีน้ำหนักมาก สามารถรับน้ำหนักได้ 2 ตัน กระเช้ายกได้สูงจากพื้นดิน 8 เมตร
• รถกระเช้า 4 สูบ
รถกระเช้าแบบ 4 สูบ มีหลายแบบ เช่น รถกระเช้าเครน รถกระเช้าไฟฟ้าเครน รถกระเช้าเครนดัมพ์ รถกระเช้าไฟฟ้าเครนดัมพ์ รถบรรทุกติดตั้งกระเช้า เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้ว จะมีความสูงไม่น้อยกว่า 10 เมตรขึ้นไป
การจะเลือกใช้รถกระเช้าประเภทใด ก็ต้องดูว่าลักษณะงานที่ทำนั้น มีความเหมาะสมที่จะใช้รถกระเช้าแบบใดเป็นหลัก และก็อย่าลืมที่จะสวมใส่ชุดอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย และใช้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ตามความเหมาะสมด้วย

ข้อปฏิบัติและการทำงานของ รถกระเช้า เป็นอย่างไร?
ในการทำงานกับรถกระเช้านั้น จะต้องมีกฎ ข้อบังคับ หรือข้อปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยอย่างมากมาย รวมไปถึงต้องทำงานอย่างเป็นขั้นตอนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ หนึ่งในข้อปฏิบัติที่มีความสำคัญต่อการทำงานของ รถกระเช้า คือ การควบคุมพื้นที่ในการทำงาน ซึ่งก็มีการห้ามไม่ให้นำรถเครนเข้าพื้นที่อาคารโรงงาน หรือเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งมีรถคันอื่นปฏิบัติงานอยู่ ยกเว้นผ่านการควบคุมการทำงานร่วมในพื้นที่เดียวกัน และขออนุญาตเข้าทำงาน อีกทั้งยังต้องวิเคราะห์ความปลอดภัย หรือทำประเมินความเสี่ยง รวมไปถึงพิจารณาใช้อุปกรณ์ปิดกั้น หรืออุปกรณ์ควบคุมพื้นที่ตามความจำเป็น
➤ ลำดับการเลือกปฏิบัติการบนที่สูง ให้เลือกลำดับที่ปลอดภัยมากที่สุดก่อน หากเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกวิธีดังกล่าว จึงพิจารณาและเลือกลำดับปฏิบัติการที่ยุ่งยากกว่า และมีภาวะเสี่ยงต่ออันตรายมากกว่า
➤ สำหรับพื้นยกระดับถาวร คือ พื้นซึ่งสร้างไว้เป็นส่วนหนึ่งของงานโครงสร้างเป็นการถาวร ขั้นพื้นฐานของพื้นยกระดับถาวรต้องเป็น ดังนี้
1. ได้การรับรองแบบโดยสามัญวิศวกร
2. ต้องประกอบด้วยรั้วบน รั้วกลาง และแผ่นกันของตก
3. มีความสูงตามมาตรฐาน
4. ต้องสามารถรับแรงที่เกิดจากโหลดได้ โหลดในที่นี้หมายรวมถึงโหลดที่เกิดจากน้ำหนักของพื้นยกระดับถาวรเอง จากน้ำหนักบรรทุก และโหลดที่เกิดจากสภาพแวดล้อมด้วย

ลงทุนทำ ธุรกิจออนไลน์ 2023 ทำรายได้จากการลงทุนที่มีรูปแบบชัดเจน

ลงทุนทำ ธุรกิจออนไลน์ 2023 ทำรายได้จากการลงทุนที่มีรูปแบบชัดเจน

การลงทุนทำธุรกิจออนไลน์ในปี 2023 เป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ โดยมีรูปแบบการลงทุนที่มีรายได้ชัดเจนดังนี้

การลงทุนในการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ – การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ หรือแอปพลิเคชัน เป็นการลงทุนที่มีศักย์สูงในการสร้างรายได้ โดยการเลือกลงทุนในแพลตฟอร์มที่มีความนิยมและมีผู้ใช้งานมากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับรายได้มากขึ้น

การลงทุนในการตลาดออนไลน์ – การลงทุนในการตลาดออนไลน์เช่นการทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ เป็นวิธีการเพิ่มโอกาสในการได้รับรายได้จากการขายสินค้าและบริการ

การลงทุนในธุรกิจออนไลน์เชิงนวัตกรรม – การลงทุนในธุรกิจออนไลน์ที่มีการนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ธุรกิจด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน แอปพลิเคชันที่มีการใช้งานโดยผู้ใช้งานมากขึ้น หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ เป็นวิธีการที่สามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับรายได้มากขึ้น

การลงทุนในการพัฒนาโปรแกรมต่างๆ การลงทุนในการพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชัน การออกแบบเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ หรือการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็เป็นวิธีการที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ลงทุนได้อย่างมากมาย

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในธุรกิจออนไลน์เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรมีการศึกษาและวิเคราะห์ธุรกิจอย่างรอบคอบ และมีการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มโอกาสในการได้รับรายได้สูงสุดในระยะยาว

ในการเลือกลงทุนในธุรกิจออนไลน์ในปี 2023 นี้ ควรพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยง รวมถึงความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยการทำความเข้าใจและวิเคราะห์อย่างรอบคอบจะช่วยให้ผู้ลงทุนตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและมีความสำเร็จในการลงทุนในธุรกิจออนไลน์ในปี 2023

ขั้นตอน รีโนเวทบ้าน ให้กลับมาเหมือนบ้านใหม่อีกครั้ง

บ้านหลังเก่าที่เราอยู่อาศัยมาหลายสิบปี ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทั้งสภาพบ้านที่ทรุดโทรมลง ประกอบกับความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เปลี่ยนไป หรือแม้แต่บ้านมือสองในเมืองที่หลายคนเลือกอยู่อาศัยแทนการซื้อบ้านหลังใหม่ตามชานเมือง ซึ่งแน่นอนว่าต้องทำการ รีโนเวทบ้านหลังเก่าที่ว่าให้ตรงกับความต้องการใหม่ของเรา ทั้งนี้เจ้าของบ้านสามารถอาศัยแนวทางการ รีโนเวทบ้าน 6 ขั้นตอนต่อไปนี้ในการเตรียมตัวก่อนลงมือ
1. กำหนดวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงบ้าน เพื่อใช้ในการประเมินงบประมาณเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็น
– ปรับปรุงบ้านทั้งหลัง เนื่องจากสภาพเก่าทรุดโทรมมาก หรือมีความเสียหายหลายส่วน
– จัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยใหม่ให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น เช่น การกั้นห้องโฮมเธียเตอร์ในพื้นที่ห้องนั่งเล่น
– ซ่อมแซมบางส่วนที่เสียหาย โดยอาจถือโอกาสปรับปรุงสภาพให้ดียิ่งขึ้น เช่น ห้องน้ำรั่วเนื่องจากระบบท่อมีปัญหา จึงปรับโฉมห้องน้ำใหม่ทั้งห้อง หรือพื้นดาดฟ้ารั่ว จึงปรับเป็นสวนดาดฟ้าสำหรับพักผ่อน
– ปรับปรุงใหม่ให้ใช้งานดีขึ้น ถึงแม้ไม่ได้มีอะไรเสียหาย แต่ปรับเพื่อแก้ปัญหาการใช้งาน เช่น เพิ่มแผงกันแดดที่หน้าต่างห้องทำงานซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่แดดส่องร้อนแรงหรือติดตั้งระบบผนังฉนวนกันเสียงและเปลี่ยนหน้าต่างชุดใหม่ในห้องนอนซึ่งมีเสียงรบกวนจากถนนใหญ่ที่มีรถวิ่งผ่าน
– ปรับโฉมใหม่ตามสไตล์ที่ชอบ เช่น แต่งห้องใหม่ให้เป็นสไตล์ลอฟท์โดยการฉาบผนังใหม่ให้เป็นปูนเปลือยแบบดิบๆ ด้วยสกิมโค้ทและรื้อฝ้าเพดานออกเพื่อโชว์ท่องานระบบต่างๆ

2. รวบรวมข้อมูลและรูปแบบที่ชอบ การตกแต่งห้องหรือพื้นที่ที่ประทับใจ รวมถึงวัสดุที่ใช้ ซึ่งอาจพบเห็นได้จากสื่อต่างๆ หรือสถานที่จริง ตลอดจนวิธีการในการปรับปรุงซ่อมแซมแต่ละส่วน ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง หรือเป็นข้อมูลในการออกแบบของสถาปนิกหรือมัณฑนากร และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ

3. ตรวจสอบสภาพพื้นที่และกำหนดแนวทางในการรีโนเวทบ้าน ควรตรวจสอบส่วนต่างๆ ของบ้าน หรือพื้นที่ที่กำลังจะปรับปรุงว่ามีส่วนใดยังใช้งานได้ดี หรือมีส่วนใดที่เสียหายต้องซ่อมแซมทั้งก่อนและขณะลงมือปรับปรุงบ้าน โดยการทำ Check List ในแต่ละห้องหรือแต่ละพื้นที่ตามประเภทงานต่างๆ แบ่งเป็น งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม (วัสดุตกแต่งและปิดผิว) พื้นที่รอบบ้าน งานระบบไฟฟ้า งานระบบประปาและสุขาภิบาล รวมถึงระบบปรับอากาศ (ถ้ามี) ตลอดจนกำหนดแนวทางในการปรับปรุง รีโนเวทบ้าน แก้ไขที่เหมาะสมในแต่ละงาน โดยอาจปรึกษาวิศวกร สถาปนิก หรือผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

4. สรุปเนื้องานที่ต้องการปรับปรุง
โดยพิจารณางานปรับปรุงซ่อมแซมต่างๆ จาก Check List ที่ทำไว้ และสรุปเนื้องานที่ต้องการปรับปรุงตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ตั้งไว้

5. จัดเตรียมงบประมาณในการปรับปรุงบ้าน แบ่งได้เป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ค่าออกแบบโดยสถาปนิก มัณฑนากร วิศวกรโครงสร้าง และวิศวกรงานระบบต่างๆ
ส่วนที่ 2 ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง ได้แก่ ค่าวัสดุและค่าแรงก่อสร้าง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าดำเนินการต่าง ๆ ระหว่างการก่อสร้าง
ส่วนที่ 3 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าโกดังเก็บของ ค่าเช่าบ้านอยู่ชั่วคราว ค่าดำเนินการขออนุญาตปรับปรุงบ้านกับหน่วยงานราชการ (สำหรับกรณีที่จำเป็นต้องยื่นขออนุญาต) ค่าบริการที่ปรึกษางานก่อสร้าง ฯลฯ

ทั้งนี้อาจใช้งบประมาณเพียงบางส่วนจากทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวมา ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณงาน และขอบเขตในการปรับปรุงบ้าน นอกจากนี้ควรเผื่องบประมาณที่อาจจะบานปลายไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีงบประมาณจำกัด ควรวางแผนลำดับความสำคัญในการปรับปรุงบ้านเป็นส่วนๆ ตามช่วงเวลาต่างๆ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับงบประมาณในการปรับปรุง

การปั้มไลด์ ปั้มติดตาม เป็นการเอาเงินไปทิ้งเปล่าๆ

ลองนึกดูเมื่อเราซื้อไลค์จาก Facebook มาแล้ว ทีนี้ก็มีการกดไลค์เพจให้จริงๆ แต่ต้องคิดถึงจุดหนึ่งด้วยว่าสิ่งที่มากดไลค์ให้เรานั้นอาจจะเป็นบอท หรือเป็นคนจริงๆ ที่มีหลายบัญชีนี่แหละมากดให้ เมื่อเสร็จงานแล้วเราลองโพสต์คอนเทนตสักตัวลงเพจดูปรากฏว่ายอดการมองเห็น การมีส่วนร่วมกับโพสต์หรือการกดไลค์แทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลยถึงแม้จะมีผู้ติดตามเป็น 1,000 เลยก็ตาม

เนื่องจากว่ากลุ่มเหล่านี้เป็นแค่บอทหรือบัญชีที่มีคนใช้งานเพียงคนเดียวให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนคน 1 คนต้องล็อกอิน 1,000 บัญชีเพื่อไปดูโพสต์ของคุณให้มันได้ยอดมองเห็น ยอดวิวเยอะๆ ตามที่คุณหวัง แต่มันเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ

แถมไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพอีก ยิ่งปั้มไลค์ Facebook ยิ่งแย่ โพสต์อะไรไปถึงคนติดตามหลายพันหลายหมื่น แต่ไม่ได้มาจากคนที่ชื่นชอบเพจเราจริงๆ ก็เหมือนกับเราเอาเงินไปละลายเล่นนั่นแหละ

1. ทำโฆษณา Facebook Ads ได้ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย

เพราะการที่ใครก็ไม่รู้ที่เราไปปั้มไลค์ Facebook มา ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าที่เละเทะ แถมไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของเรา ตัวระบบโฆษณาของ Facebook ฉลาดพอสมควร โดยจะกรองผู้ที่มีความสนใจคล้ายกันกับผู้ที่กดไลค์หรือมีส่วนร่วมใดๆ กับเพจของคุณและส่งกลุ่มเป้าหมายนั้นมาให้

และยิ่งมองไปในระยะยาว เรื่องการทำ Lookalike การ Custom Audience จะยิ่งพังหนักกว่าเดิม เพราะเราจะไม่เจอกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพหรือพร้อมซื้อสินค้ากับเราเลย

ถ้าคุณอยากหากลุ่มเป้าหมายจริงๆ ล่ะก็ วาปไปที่ลิงค์นี้ได้เลย เราเขียนวิธีหากลุ่มเป้าหมายไว้ให้หมดแล้ว

2. เสี่ยงต่อการโดนแบน
โดนปิดบัญชี

เนื่องจาก Facebook มีกฎที่เข้มงวดมากเกี่ยวกับการปั้มไลค์ Facebook หากพบเจอถึงขั้นถูกแบน และถึงแม้จะสมัครใหม่ได้เรื่อยๆ ในปี 2021 นี้ระบบ AI ของ Facebook ก็ฉลาดมากพอที่จะจดจำว่าคนที่กำลังสมัครอยู่นั้นเป็นคุณ ดังนั้นแล้วการปั้มไลค์ Facebook ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปเลย

3. การปั้มไลค์ Facebook ก็เหมือนเอาเงินไปทิ้ง
ใช้เงินทิ้งขว้าง

เพราะการปั้มไลค์ก็เหมือนเป็นการเอาบอทหรือใครก็ไม่รู้มานั่งทำให้เรา จนเพจเราด้อยประสิทธิภาพ แถมเดียวนี้โลกโซเชียลยิ่งไว เห็นอะไรผิดปกตินิดหน่อยก็จับโป๊ะกันได้แล้ว อีกอย่างคือในปี 2021 นี้เองตัว AI Facebook ก็ค่อนข้างเข้มงวดถึงขั้นมากที่สุดกันเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าเอาเงินที่มีค่าไปทิ้งเล่นเลย
4. นอกเหนือจากปั้มไลค์ Facebook ก็ยังมีกฎอื่นๆ อีกด้วย
กฎ Facebook

Facebook ไม่ได้ห้ามเพียงแค่ปั้มไลค์ Facebook อย่างเดียว แต่ยังมีข้อห้ามอื่นๆ อาทิเช่น การใช้รูปภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์อื่นๆ โดย Facebook จะมี AI ที่คอยตรวจจับการโพสต์รูปภาพหรือข้อความอยู่

สังเกตได้ว่าเราโพสต์สินค้าต่างๆ ที่เป็นแบรด์ โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ นี่จะโดน Facebook ปิดกั้น โดนไม่ให้ยิงแอดบ้าง โดยปิดบัญชีบ้างแหละ เยอะแยะไปหมด ดังนั้นใครที่ขายของก็ควรรู้กฎของ Facebook ไว้บ้าง เผื่อเดียวเราไปละเมิดเข้าแล้วทีนี้ยาวเลยฃ

การปั้มไลค์ Facebook มีผลดีที่น้อยกว่าผลเสียค่อนข้างมาก สำหรับคนที่ขายของหรือคนทำเพจเกี่ยวกับ Facebook จริงๆ จังๆ ทุกท่านก็คงแนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า “ปั้มไลค์ Facebook” เป็นอะไรที่ไม่มีประโยชน์ แถมยังมีแต่ข้อเสีย และในต้นปี 2021 ที่ผ่านมานั้น Facebook ก็ได้ประกาศแล้วว่าจะเอาปุ่มไลค์ออกจากเพจกลายเป็นปุ่ม Follow แทน ทำให้ปุ่มไลค์แทบจะถูกลดความสำคัญลงไปเลย

อีกอย่างเราอย่ายึดติดกับ “ยอดไลค์” มากนัก เพราะมันไม่ได้เป็นตัวเลขที่บ่งบอกว่าดีหรือยอดเยอะเสมอไป บางคนที่ยิงแอดเก่งๆ คนกดไลค์เพจไม่ถึง 1,000 แต่ยอดขายได้มากกว่าคนกดไลค์เพจหลักหมื่นเสียอีก เพราะฉะนั้นเราต้องโฟกัสและตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า “ระหว่างกดไลค์กับยอดขาย” อันไหนสำคัญสำหรับคุณมากกว่ากัน?

วิธีต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์

ข้อต้องรู้ ‘ต่อภาษีรถยนต์’ ที่ไหน? ใช้อะไรบ้าง?

การต่อภาษีรถยนต์ในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น จากช่องทางให้บริการต่อภาษีที่สำนักงานขนส่งแบบเดิม ช่องไดรฟ์ทรู ไปรษณีย์ไทย หรือแม้กระทั่งการต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์ที่เลือกได้ตามสะดวก แต่อาจต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีประจำปีตามเงื่อนไขที่กำหนด แรบบิท แคร์ รวบรวมประเด็นสำคัญที่ควรต้องรู้เมื่อต้องต่อภาษีรถยนต์ประจำปีมาฝาก

1. ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ไหม ต้องทำอย่างไร?

1.1 กรณีต่อภาษีตามปกติ หรือต่อล่วงหน้า

การชำระภาษีรถประจำปีล่วงหน้าสามารถทำได้ 2 กรณี แบ่งเป็น 1) การชำระภาษีล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน และมีภาษีเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนวันครบกำหนดเสียภาษี เมื่อชำระแล้วจะได้ป้ายภาษีใหม่ภายใน 7-14 วัน และ 2) การชำระภาษีล่วงหน้า 3 เดือน จะได้รับป้ายภาษีใหม่ทันที โดยสามารถเลือกต่อภาษีได้ในทุกช่องทางที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ทั้งการต่อภาษีรถแบบปกติหรือการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

ข้อควรระวังที่ต้องทราบในการต่อภาษีรถยนต์ คือ พ.ร.บ. ต้องยังไม่หมดอายุ หรือมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน หาก พ.ร.บ. มีอายุน้อยกว่า 90 วัน ต้องซื้อ พ.ร.บ.ใหม่ เพื่อประกอบการขอต่อภาษีรถยนต์ประจำปี

1.2 กรณีค้างชำระ

กรณีรถค้างชำระภาษีเกินกว่า 1 ปี หรือรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพรถกับสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ก่อนเริ่มดำเนินการชำระภาษีรถผ่านช่องทางต่างๆ โดยต้องชำระภาษีที่ค้างตามจริง อิงตามอัตราภาษีรถประจำปีของรถแต่ละประเภท พร้อมเสียภาษีเพิ่มร้อยละ 1 ต่อเดือน หรือคิดเป็น 1% ของภาษีรถยนต์ต่อเดือนจนถึงวันที่ชำระ

และมีค่าตรวจสภาพรถยนต์ราคาอยู่ที่ 150-200 บาท ตามประเภทเเละขนาดน้ำหนักของรถยนต์ มีรายละเอียดการดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ของรถที่ค้างค่าภาษีรถประจำปีดังนี้

รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพที่ ตรอ. เท่านั้น
รถยนต์ที่อายุการใช้งานยังไม่ครบ 7 ปี หรือครบกำหนดตรวจสภาพ และมีการค้างชำระภาษี ไม่เกิน 1 ปี ไม่ต้องนำรถไปตรวจสภาพ ทำเรื่องชำระภาษีเพียงอย่างเดียว
รถยนต์ที่อายุการใช้งานยังไม่ครบ 7 ปี หรือครบกำหนดตรวจสภาพ และมีการค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง หรือ ตรอ.
กรณีค้างชำระภาษีเกิน 3 ปี ต้องตรวจสภาพรถและชำระภาษีที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น

2. ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการต่อภาษีรถประจำปี?

คู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
หลักฐานตาราง พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ/ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาคุ้มครอง
ใบผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)
หนังสือรับรองการตรวจทดสอบกรณีรถติด LPG/CNG
หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล อายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน)
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม (กรณีเป็นนิติบุคคล)
หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่เจ้าของรถไม่สะดวกดำเนินการ พร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท)
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจ)

3. ต่อภาษีรถยนต์ที่ไหนได้บ้าง?

ปัจจุบันมีช่องทางการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีให้เลือกได้ตามสะดวก หากไม่สะดวกไปต่อภาษีรถด้วยตัวเองที่สำนักงานขนส่งในวันทำการตามปกติ สามารถเลือกจ่ายภาษีรถยนต์ประจำปีได้ที่ไปรษณีย์ไทย ห้างสรรพสินค้า ช่องบริการแบบไดรฟ์ทรู แอปพลิเคชั่น Wallet แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax หรือเว็บไซต์ eservice.dlt.go.th โดยไม่ต้องเดินทางไปทำเรื่องที่สำนักงานขนส่งอีกต่อไป สามารถเลือกต่อภาษีรถยนต์ได้ตามสถานที่ดังนี้

3.1 สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ

กรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (เขตบางขุนเทียน)
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (เขตตลิ่งชัน)
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (เขตพระโขนง)
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (เขตหนองจอก)
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (เขตจตุจักร)
สำนักงานขนส่งประจำจังหวัด

3.2 บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)

เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) คือ บริการการรับชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านช่องบริการแบบไดรฟ์ทรู (Drive Thru) โดยไม่ต้องลงจากรถที่กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครทั้ง 5 พื้นที่ และสำนักงานขนส่งประจำจังหวัดทั่วประเทศ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.30-15.30 น.

การต่อภาษีรถยนต์แบบไดรฟ์ทรูนี้ สามารถต่อภาษีให้กับรถยนต์ที่จดทะเบียนที่จังหวัดใดก็ได้ และเมื่อชำระเงินเงินเรียบร้อยเเล้วจะได้รับป้ายภาษีใหม่ทันที เเละต้องเตรียมหลักฐานนำมายื่นต่อภาษีรถกับบริการเลื่อนล้อต่อภาษีเหมือนกับการต่อภาษีรถยนต์ด้วยตัวเองที่สำนักงานขนส่งตามปกติ

3.3 แอปพลิเคชัน Truemoney Wallet

สามารถต่อภาษีรถประจำปีผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ทได้โดยเมื่อเติมเงินเข้า Wallet เรียบร้อย ให้เลือกเมนู ‘Pay Bill’ จากนั้นเลือกจ่ายบิลในหมวดสาธารณูปโภค และเลือกจ่ายบิล ‘กรมการขนส่งทางบก’ กรอกรายละเอียดข้อมูลรถยนต์ ข้อมูล พ.ร.บ. และข้อมูลผู้เสียภาษีให้ครบถ้วน และเมื่อชำระเงินเรียบร้อย เอกสารต่อภาษีรถยนต์ประจำปีจะจัดส่งให้ภายใน 7 วัน

3.4 แอปพลิเคชัน mPAY

3.5 ที่ทำการไปรษณีย์ไทย (ปณท)

สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศที่ไม่ใช้ตัวแทน โดยต้องมีสมุดคู่มือจดทะเบียนรถเล่มจริงไปแสดง และจะมีค่าธรรมเนียมไปรษณีย์ 40 บาท โดยจะได้รับใบเสร็จเพื่อเป็นหลักฐานทันทีหลังชำระเงินและมีอายุหลักฐาน 30 วัน

เมื่อจัดเตรียมและจัดส่งเอกสารทั้งหมดที่สำนักงานไปรษณีย์เรียบร้อยแล้ว ปณท จะนำส่งเงินค่าภาษีรถ ใบคู่มือจดทะเบียนรถเเละเอกสารอื่นๆ ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดส่งต่อไปยังสำนักงานขนส่งสาขาที่รถจดทะเบียนไว้ จากนั้นเมื่อต่อภาษีเรียบร้อยเเล้ว จะจัดส่งคืนใบคู่มือจดทะเบียนรถ แผ่นป้ายเครื่องหมายเเสดงการเสียภาษีรถและใบเสร็จรับเงินให้ผู้ใช้บริการทางไปรษณีย์ภายใน 10-15 วัน หรือประมาณ 2 สัปดาห์

3.6 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)

ผู้ที่ต้องการต่อภาษีรถยนต์ผ่าน ธ.ก.ส. ต้องสอบถามข้อมูลการให้บริการจากสาขาที่ต้องการเข้าใช้บริการล่วงหน้าก่อน เนื่องจากบริการต่อภาษีรถยนต์จะเปิดให้บริการเฉพาะบางสาขาเท่านั้น เนื่องจากบางสาขายังไม่ได้รับต่อภาษี แต่เป็นเพียงตัวแทนการรับชำระเท่านั้น

การต่อภาษีรถยนต์กับ ธ.ก.ส. อาจเป็นการบริการต่อภาษีพร้อมชำระค่าธรรมเนียมเบ็ดเสร็จที่สาขา หรืออาจต้องกรอกข้อมูลในระบบการต่อภาษีรถยนต์ในเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำเอกสารที่มีแถบบาร์โค้ดมายื่นชำระค่าธรรมเนียมต่อภาษีรถยนต์ประจำปีไที่ ธ.ก.ส เเละมีค่าธรรมเนียม 60-90 บาท

3.7 เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11

3.8 ห้างสรรพสินค้า (โครงการ ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี : Shop Thru For Tax)

หน่วยให้บริการของกรมการขนส่งทางบกที่ออกตั้งจุดให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชุมชน ตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี : Shop Thru For Tax” ในทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ตั้งเเต่เวลา 09.00-18.00 น.ได้แก่

ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จำนวน 11 สาขา (สาขาบางบอน บางปะกอก เพชรเกษม อ่อนนุช สุวิทวงศ์ รัชดาภิเษก สุขาภิบาล 3 ลาดพร้าว รามอินทรา สำโรง และสมุทรปราการ)
ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค
เซ็นทรัลศาลายา
เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
เซ็นทรัล Westgate
เซ็นทรัล รามอินทรา
เซ็นทรัลเวิลด์
เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
ศูนย์บริการร่วมคมนาคม ณ เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน

3.9 เว็บไซค์ eservice.dlt.go.th และแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

การต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์ ผ่านช่องทางออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบกรองรับการต่อภาษีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้ทุกอายุการใช้งาน แต่หากอายุเกินหรือครบกำหนดตรวจสภาพรถ ต้องผ่านการตรวจสภาพรถยนต์เรียบร้อยแล้ว สามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ก่อนวันที่ภาษีรถสิ้นอายุ และสามารถเลือกจ่ายแบบหักจากบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต/เดบิต หรือเคาท์เตอร์ธนาคารได้ตามสะดวก

ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมต่อประกันภัยรถยนต์หรือเช็กระยะเวลาคุ้มครองของประกันรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะนอกจากประกันรถยนต์จะไม่มีค่าปรับหรือระเบียบบังคับให้ต้องคอยต่ออายุเหมือนกับภาษีรถยนต์ประจำปี หรือ พ.ร.บ. ที่ต้องต่ออายุอย่างต่อเนื่องทุกปีแล้ว อุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ และจะร้ายแรงมากขึ้นเมื่อไม่มีประกันรถ หรือประกันรถขาดพอดี